การทำ SEARCH ENGINE
1. ใส่ Keyword ใน Title ของหน้าเว็บการใส่ keywords ใน title นี้จะช่วยทำให้ Search Engine ต่างๆ รู้ว่า เว็บเราทำเรื่องเกี่ยวกับอะไร
2. การใส่ Key Word ที่ต้องการในส่วนด้านบนของเว็บไซต์และการเน้นด้วยตัวหนาใส่ keywords ที่เราต้องการให้ระบบของ google จับไปว่า เว็บไซต์ของเราทำเรื่องเกี่ยวกับอะไรนั้น ก็ควรใส่ keywords นั้นๆ เป็นตัวหนา เป็น head1 head2
3. หลีกเลี่ยงการออกแบบเว็บไซต์ด้วย Flash หรือรูปภาพเยอะ Search Engine ต่างๆ จะอ่านไม่ออกนะเพราะ Search engine มันอ่านได้แต่ตัวอักษรหรือ html ปกติเท่านั้น
4. หลีกเลี่ยงใช้ออกแบบเว็บไซต์ด้วยเฟรม
5. ใช้ keyword ที่บริเวณ ลิงค์เชื่อมโยงมาตรฐาน (Standard Text Link) การใช้ Text link เป็นตัวเชื่อมโยง แล้วแทรก Keyword ผสมเข้าไปด้วย
6. ควรตั้งชื่อไฟล์รูปภาพ และใส่คำอธิบายให้กับภาพการตั้งชื่อไฟล์รูปภาพ
7. จด Domain name ด้วย Keywordการใช้ Keyword หลักของเว็บในการจด Domain name
8. เรียก Robot เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์เราสามารถเรียก robot ของ google ให้เข้ามาเยี่ยมชมที่เว็บไซต์เราได้โดย เข้าไปที่ http://www.google.com/addurl/ เพื่อ add ชื่อเว็บไซต์ของเรา เพื่อให้ google เข้าไปเก็บข้อมูลและเนื้อหาของเราและใส่เว็บไซต์ของเราลงไปในฐานข้อมูลของ google
9. แลกลิงค์กับเว็บไซต์อื่นๆ1.10 ทำ Site Map ให้กับเว็บไซต์ของคุณ เมื่อระบบของ google วิ่งมาในเว็บไซต์เราแล้ว รู้ว่า ควรจะไปทางไหน เหมือนกับเป็นแผนที่นำทาง พา google ไปเยี่ยมชมเว็บไซต์เราให้ครบทุกจุด
เทคนิคการสร้างเมนูในพื้นที่ด้านล่างของเว็บไซต์
1. Login เข้าสู่ส่วนสมาชิก คลิก จัดการกลุ่มบทความ/บทความ จากนั้น คลิก เพิ่มบทความใหม่ 2. ใส่ข้อความที่ต้องการสร้างเป็นเมนูหลักในพื้นที่ด้านล่างของเว็บไซต์ ในส่วนของเนื้อหาของบทความ 3. ให้ท่านทำการ Copy Url ของปลายทางที่จะลิงค์ไป เช่น ต้องการให้ลิงค์ไปหน้าแรกของเว็บไซต์ให้ท่านเปิดหน้าแรกของเว็บไซต์ หลังจากนั้นทำการ Copy Url 4. หลังจาก Copy URL ให้กลับมาไฮไลท์ข้อความที่ต้องการสร้างลิงค์ คลิกที่เครื่องมือ (Hyperlink in Text) เพื่อสร้างลิงค์ 5. ปรากฎหน้าต่าง Link -- Webpage Dialog วางลิงค์ Url ที่ Copy มาในช่อง URL จากนั้นคลิก OK 6. ทำการสร้างลิงค์เมนูที่เหลือ ตามขั้นตอนในข้อ 4 และ 5 จนครบทุกเมนู จากนั้นให้ท่านคลิกที่เครื่องมือ ( View HTML Source ) แล้ว Copy HTML Code ที่ปรากฎ 7. จากนั้นเลือก พื้นที่ด้านล่างของเว็บไซต์ วาง Code ที่ Copy ไว้ ในพื้นที่ด้านล่างของเว็บไซต์ แล้วคลิก ตกลง 8. แสดงเมนูในพื้นที่ด้านล่างของเว็บไซต์ที่สมบูรณ์
การทำภาพสไลด์
1.การทำภาพสไลด์ต้องอาศัย โค้ดสองส่วนด้วยกันคือ java script ซึ่งเป็นส่วนควบการทำงานหลักของการสไลด์ภาพ และ CSS เป็นส่วนของการจัดรูปแบบในการนำเสนอภาพให้มีความสวยงามเหมาะสมตรงตามความต้องการที่ผู้จัดทำต้องการนำเสนอ
2.เตรียมรูปภาพที่ต้องการนำไปทำสไลด์ รูปภาพที่เราจะนำไปทำสไลด์นั้นควรมีขนาดของรูปภาพเท่ากันทุกรูป สิ่งนี้จำเป็นเพราะจะทำให้ภาพที่สไลด์ออกมานั้นมีความสวยงามสม่ำเสมอ และอีกอย่างที่จะต้องเตรียมก่อนทำภาพสไลด์นี้ก็คือ ไฟล์ ที่ควบคุมการทำงาน(Java Script) จำนวน 2 ไฟล์(jquery.js, easySlider1.7.js) และไฟล์ css 1 ไฟล์(screen.css)
3.เมื่อเตรียมสิ่งที่กล่าวมาในข้างต้นเรียบร้อยแล้ว เราก็ลงมือเขียนโค้ดได้เลย และในส่วนของการเขียนโค้ดลงไปนั้นจะมีอยู่สองส่วนด้วยกันคือ
3.1เขียนโค้ดลงไปในส่วนของ Head (<Head> ...โค้ด... </Head>) ซึ่งเป็นส่วนของการกำหนดค่าการทำงานต่างๆ โดยโค้ดที่จะต้องนำไปเขียนไว้ในส่วนนี้ก็คือ
การ import ไฟล์ CSS เข้ามา
การ import ไฟล์ java script ที่เตรียมไว้เข้ามาใช้
<script type="text/javascript" src="../js/jquery.js"></script>
<script type="text/javascript"src="../js/easySlider1.7.js"></script>
· เขียนโค้ด java script เพิ่มเติมเพื่อสั่งให้มีการทำงาน โดยพิมพ์ตามด้านล่างนี้
<script type="text/javascript">
$(document).ready(function(){
$("#slider").easySlider({
auto: true, //ภาพสไลด์เองอัตโนมัติ(True)
continuous: true,//การกำหนดให้มีการวนภาพซ้ำ(Repeat)
numeric: true//เมื่อกดตัวเลขภาพจะสไลด์ตามลำดับตัวเลขนั้น
});
});
</script>
3.2เขียนโค้ดลงไปในส่วนของ body(<body>...โค้ด...</body>)เพื่อให้แสดงผล(ให้เขียนโค้ดตรงตำแหน่งตามที่ต้องการให้แสดงผล) โค้ดดังกล่าวดูไปจากด้านล่างนี้
<div id="container">
<div id="header">//กำหนดส่วนหัวของรูป
<h1>ข้อความที่เป็นห้วข้อของรูปที่สไลด์</h1>
</div>
<div id="content">
<div id="slider">//ส่วนของภาพที่นำไปทำสไลด์
<ul>
<li><a href="#ลิงค์"><img src="รูปที่ 1(image1.jpg)" alt="คำอธิบายแทนภาพ" /></a></li>
<li><a href="#ลิงค์"><img src="รูปที่ 2(image2.jpg)" alt="คำอธิบายแทนภาพ" /></a></li>
.
.
.
</ul>
</div>
</div>
</div>
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น